เสื้อสกรีน พิมพ์ลาย 3 ประเภท  

เสื้อสกรีน

การเริ่มต้นในการสร้างและออกแบบ เสื้อสกรีน ของตัวเอง อาจไม่ใช่เรื่องยากในยุคนี้ เพราะใครๆ ก็มี เสื้อสกรีน ลายเฉพาะของตัวเองได้แต่จะดีกว่าไหม ถ้าได้ลายเสื้อที่คุณออกแบบมาพร้อมกับดีเทลสวยที่ใครเห็นก็ต้องเหลียว  บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ รูปแบบของเทคโนโลยีการสกรีนลาย ทั้ง 3 ประเภท อาทิ เช่น DFT,DTF,  /  DTG  / Transfer เสื้อสกรีน แต่ละประเภทจะมีความต่างกันอย่างไรบ้างไปดูกัน

เรียนรู้ให้ปังก่อนปั้นแบรนด์ อยากที่จะเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นนอกจากจะเรียนรู้เรื่องการออกแบบลายให้ตรงใจตอบโจทย์ลูกค้าตามกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ เจ้าของแบรนด์จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ดีเทลของการสกรีนให้ดี เพื่อการสร้างความแตกต่างของผิวสัมผัสเกี่ยวกับการสกรีน  ด้วยเทคโนโลยี 3 ประเภท   DFT,DTF,  /  DTG  / Transfer

เสื้อสกรีน

การพิมพ์ลายเสื้อมีหลายวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งในแง่ของงบประมาณ คุณภาพ และดีไซน์

เทคนิคการพิมพ์ลายแบบ 

  • DTG (Direct to Garment), 
  • Transfer 

ทั้ง 3 รูปแบบนี้ ต่างก็เป็นเทคนิคที่ได้คุณภาพสูง และมักนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย มาดูกันว่าแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร และมีจุดเด่นอะไรบ้าง

การพิมพ์ เสื้อสกรีน ด้วยเทคนิค DFT (Direct Film Transfer) และ DTF (Direct to Film) เป็นเทคนิคการพิมพ์สมัยใหม่ที่ใช้ในการถ่ายโอนลายจากฟิล์มไปยังผ้าโดยใช้ความร้อน เทคนิคนี้กำลังเป็นที่นิยมในวงการ สกรีนเสื้อ เพราะสามารถพิมพ์ลายที่มีรายละเอียดสูง สีสันสดใส และใช้งานกับผ้าหลากหลายประเภทได้ แต่ละเทคนิคมีรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างคล้ายกัน มาดูรายละเอียดของกระบวนการทำงาน ข้อดี ข้อเสีย ของทั้งสองเทคนิคนี้

รูปแบบการทำงานของ DFT และ DTF

DFT (Direct Film Transfer) และ DTF (Direct to Film) มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน ดังนี้:

  1. ออกแบบลาย: เริ่มจากการออกแบบลายเสื้อในโปรแกรมกราฟิก เช่น Adobe Illustrator หรือ Photoshop ลายที่ได้สามารถมีความซับซ้อนสูงและสีสันหลากหลายได้ตามต้องการ
  2. พิมพ์ลงบนฟิล์ม: ลายที่ออกแบบจะถูกพิมพ์ลงบนฟิล์มใสที่เรียกว่า ฟิล์มพิเศษสำหรับ DFT/DTF โดยใช้หมึกพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์บนฟิล์มชนิดนี้
  3. ใส่กาวผง: หลังจากพิมพ์ลายเสร็จแล้ว ฟิล์มที่พิมพ์จะถูกโรยด้วย ผงกาว บนบริเวณที่พิมพ์ลาย ผงกาวนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมลายพิมพ์กับผ้า
  4. ทำการอบฟิล์ม: นำฟิล์มที่โรยผงกาวแล้วเข้าเครื่องอบความร้อนเพื่อให้ผงกาวละลายและยึดติดกับลายพิมพ์บนฟิล์มอย่างสมบูรณ์
  5. ถ่ายโอนลายลงบนเสื้อ: ฟิล์มที่ผ่านการอบเสร็จแล้วจะถูกนำไปวางบนเสื้อ และใช้เครื่องรีดความร้อน (Heat Press) ในการถ่ายโอนลายจากฟิล์มลงบนผ้า โดยความร้อนจะทำให้ลายยึดติดกับผ้าได้อย่างถาวร
  6. ลอกฟิล์มออก: หลังจากลายพิมพ์ยึดติดกับเสื้อแล้ว ฟิล์มจะถูกลอกออก เหลือเพียงลายพิมพ์ที่สมบูรณ์บนเสื้อ

ข้อดีของการพิมพ์ด้วย DFT และ DTF

  1. ความคมชัดและสีสันสดใส: เทคนิค DFT และ DTF สามารถพิมพ์ลายที่มีความละเอียดสูงและสีสันสดใสได้ ลายพิมพ์จะคมชัดและสีที่ใช้มีความเข้มสูง ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรายละเอียดที่ซับซ้อนหรือการไล่เฉดสี
  2. รองรับผ้าหลากหลายชนิด: สามารถพิมพ์ลงบนผ้าหลากหลายประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย, โพลีเอสเตอร์, ผ้าผสม หรือผ้าที่มีเนื้อสัมผัสยืดหยุ่น ซึ่งเทคนิคอื่นอาจมีข้อจำกัด
  3. ทนทานต่อการซัก: ลายพิมพ์จาก DFT/DTF มีความทนทานต่อการซักหลายครั้ง ไม่แตกหรือซีดง่าย ทำให้เสื้อที่พิมพ์ด้วยเทคนิคนี้มีอายุการใช้งานยาวนาน
  4. ความยืดหยุ่นในการออกแบบ: สามารถพิมพ์ลายที่มีสีสันหลายสีหรือลายกราฟิกที่ซับซ้อนได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนสีที่ใช้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์ผลงาน
  5. ต้นทุนการผลิตในปริมาณน้อยไม่สูงเกินไป: เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการพิมพ์ในจำนวนที่ไม่มาก เช่น 10-50 ชิ้น ซึ่งช่วยให้ประหยัดต้นทุนเมื่อเทียบกับการพิมพ์ซิลค์สกรีนที่ต้องลงทุนทำแม่พิมพ์

ข้อเสียของการพิมพ์ เสื้อสกรีน ด้วย DFT และ DTF

  1. ต้นทุนต่อหน่วยสูงเมื่อพิมพ์จำนวนมาก: การพิมพ์ DFT/DTF เหมาะสำหรับงานที่มีจำนวนไม่มาก ถ้าต้องการพิมพ์จำนวนมาก ต้นทุนต่อหน่วยอาจสูงกว่าเทคนิคสกรีน เสื้อสกรีน ซิลค์สกรีนแบบดั้งเดิม
  2. กระบวนการทำงานละเอียด: การทำ DFT/DTF ต้องอาศัยขั้นตอนหลายขั้นตอน ทั้งการพิมพ์ การโรยกาว และการอบ ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่าวิธีการพิมพ์ที่รวดเร็วกว่า เช่น ซิลค์สกรีน
  3. ความหนาของลายพิมพ์: ลายพิมพ์จาก DFT/DTF อาจมีความหนามากกว่าการพิมพ์เสื้อสกรีน แบบ DTG ซึ่งอาจทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกถึงลายพิมพ์บนผิวผ้าได้ แต่ไม่ได้เป็นปัญหามากนักในกรณีที่พิมพ์ลายเล็กหรือกระจายทั่วตัวเสื้อ
  4. ความทนทานในระยะยาว: แม้ว่าลายพิมพ์จาก DFT/DTF จะทนต่อการซัก แต่ในระยะยาว การใช้งานบ่อยครั้งหรือการซักอย่างหนักอาจทำให้ลายเริ่มซีดหรือแตกได้หากไม่ได้ดูแลอย่างเหมาะสม
เสื้อสกรีน

การพิมพ์เสื้อด้วยเทคนิค DTG (Direct to Garment)

การพิมพ์ เสื้อสกรีน ด้วยเทคนิค DTG (Direct to Garment) เป็นวิธีการพิมพ์ลายลงบนเสื้อผ้าโดยตรงผ่านเครื่องพิมพ์ดิจิทัล โดยไม่ต้องใช้แม่พิมพ์เหมือนการพิมพ์ซิลค์สกรีน เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการพิมพ์เสื้อผ้า เพราะสามารถพิมพ์ลายที่มีรายละเอียดสูงและสีสันได้หลากหลาย เทคนิค DTG เหมาะสำหรับการพิมพ์เสื้อจำนวนไม่มาก หรือเสื้อที่มีลวดลายเฉพาะตัว

รูปแบบการทำงานของการพิมพ์ DTG

  1. การเตรียมเสื้อผ้า: ก่อนการพิมพ์ลาย เสื้อผ้าจะถูกเตรียมโดยการฉีดน้ำยาพิเศษบนเนื้อผ้า (Pre-Treatment) ซึ่งช่วยให้หมึกติดแน่นและสีที่พิมพ์ออกมาดูสดใส โดยเฉพาะกับผ้าฝ้าย
  2. ออกแบบลายบนคอมพิวเตอร์: การออกแบบลายเสื้อจะทำบนโปรแกรมกราฟิก เช่น Adobe Illustrator หรือ Photoshop ลายที่ออกแบบสามารถเป็นลายกราฟิก รูปภาพ หรือข้อความตามที่ลูกค้าต้องการ
  3. พิมพ์ลายลงบนเสื้อผ้า: เมื่อเตรียมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เสื้อจะถูกวางลงบนเครื่องพิมพ์ DTG ซึ่งทำงานคล้ายกับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต แต่มีขนาดใหญ่และใช้หมึกพิเศษสำหรับผ้า เครื่องพิมพ์จะพ่นหมึกลงบนเสื้อโดยตรงตามลายที่ออกแบบ โดยสามารถพิมพ์สีได้หลากหลายและให้ความละเอียดสูง
  4. .อบความร้อนเพื่อให้หมึกติดทน: หลังจากพิมพ์ลายเสร็จแล้ว เสื้อจะถูกอบด้วยความร้อน (Heat Press) เพื่อให้หมึกยึดติดกับเนื้อผ้าอย่างสมบูรณ์ และทำให้ลายพิมพ์ทนทานต่อการซัก

ข้อดีของการพิมพ์ DTG

  1. รายละเอียดลายพิมพ์สูง: DTG เหมาะกับการพิมพ์ลายที่มีความละเอียดสูงและมีสีสันหลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะลายง่าย ๆ เช่น การไล่เฉดสีหรือการพิมพ์ภาพถ่ายก็สามารถทำได้อย่างคมชัด
  2. เหมาะสำหรับการพิมพ์จำนวนน้อย: การพิมพ์ DTG ไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์ ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการสั่งพิมพ์เสื้อในจำนวนไม่มาก เช่น เสื้อเฉพาะบุคคลหรือกลุ่มเล็ก ๆ เนื่องจากต้นทุนการเตรียมการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ เช่น ซิลค์สกรีน
  3. การพิมพ์สีที่หลากหลาย: DTG สามารถพิมพ์ลายที่มีสีสันหลายเฉดและรายละเอียดสูงได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องจำนวนสี ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการดีไซน์ซับซ้อนและสีสันสดใส
  4. การใช้งานง่ายและรวดเร็ว: การพิมพ์ DTG สามารถเริ่มพิมพ์ได้ทันทีหลังจากออกแบบเสร็จ ไม่ต้องเตรียมแม่พิมพ์หรือผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ทำให้สามารถรับงานได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสียของการพิมพ์ DTG

  1. ไม่เหมาะสำหรับการพิมพ์จำนวนมาก: การพิมพ์ DTG มีต้นทุนต่อหน่วยสูงเมื่อสั่งผลิตในจำนวนมาก หากต้องการพิมพ์เสื้อจำนวนมาก การใช้เทคนิคซิลค์สกรีนอาจคุ้มค่ากว่า เนื่องจากซิลค์สกรีนมีต้นทุนการผลิตที่ลดลงเมื่อสั่งผลิตในจำนวนมาก
  2. จำกัดเรื่องประเภทผ้า: การพิมพ์ DTG เหมาะกับผ้าฝ้ายหรือผ้าที่มีส่วนผสมของฝ้ายเป็นหลัก หากใช้กับผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าที่มีส่วนผสมสังเคราะห์สูง สีอาจไม่ติดทนหรือดูดซับสีได้ไม่ดีเท่าผ้าฝ้าย
  3. ความทนทานน้อยกว่าบางเทคนิค: แม้ว่าการพิมพ์ DTG จะให้ความคมชัดและสีสันสดใส แต่ลายพิมพ์อาจไม่ทนทานเท่ากับการพิมพ์ซิลค์สกรีนหรือการพิมพ์แบบ DTF หลังจากการซักหลายครั้ง สีอาจซีดลงหรือจางได้หากไม่ได้ดูแลอย่างเหมาะสม
  4. การใช้เวลานานเมื่อพิมพ์จำนวนมาก: เนื่องจากเครื่องพิมพ์ DTG พิมพ์ลายทีละตัว การสั่งพิมพ์เสื้อจำนวนมากอาจใช้เวลานานเมื่อเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ ที่สามารถพิมพ์จำนวนมากในครั้งเดียว
เสื้อสกรีน

การพิมพ์เสื้อด้วยเทคนิค Transfer: รูปแบบการทำงาน ข้อดี และข้อเสีย

การพิมพ์เสื้อด้วยเทคนิค Transfer หรือที่เรียกว่า Heat Transfer เป็นวิธีการพิมพ์ลายลงบนเสื้อผ้าด้วยการถ่ายโอนภาพพิมพ์จากกระดาษหรือฟิล์มผ่านความร้อน เทคนิคนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการพิมพ์เสื้อ เพราะสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว และไม่จำกัดรายละเอียดของลายพิมพ์ อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ได้หลากสีในครั้งเดียว

รูปแบบการทำงานของการพิมพ์ Transfer

  1. ออกแบบลายบนคอมพิวเตอร์: เริ่มจากการออกแบบลายในโปรแกรมกราฟิก เช่น Adobe Illustrator หรือ Photoshop ลายที่ออกแบบสามารถเป็นรูปภาพ ข้อความ หรือกราฟิกซับซ้อน โดยไม่จำกัดจำนวนสี
  2. พิมพ์ลายลงบนกระดาษ Transfer: ลายที่ออกแบบจะถูกพิมพ์ลงบน กระดาษ Transfer (กระดาษทรานเฟอร์) หรือฟิล์มด้วยเครื่องพิมพ์เฉพาะ กระดาษ Transfer จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนลายไปยังเสื้อ
  3. วางกระดาษลงบนเสื้อผ้า: นำกระดาษที่พิมพ์ลายเสร็จแล้วมาวางบนเสื้อผ้าในตำแหน่งที่ต้องการให้ลายติด
  4. ใช้เครื่องรีดความร้อน: ใช้ เครื่องรีดความร้อน (Heat Press) กดลงบนกระดาษที่พิมพ์ลายพร้อมเสื้อ ความร้อนจะทำให้หมึกหรือสารเคลือบบนกระดาษ Transfer หลุดออกมาและยึดติดกับเนื้อผ้า กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่กี่วินาที

ลอกกระดาษออก: หลังจากรีดความร้อนเสร็จแล้ว กระดาษ Transfer จะถูกลอกออก เหลือเพียงลายพิมพ์ที่ติดแน่นบนเสื้อผ้า

ข้อดีของการพิมพ์ Transfer

  1. ต้นทุนต่ำสำหรับการพิมพ์จำนวนน้อย: การพิมพ์แบบ Transfer เหมาะสำหรับการผลิตเสื้อในจำนวนน้อยหรือการพิมพ์ตามสั่ง เพราะไม่ต้องลงทุนทำแม่พิมพ์ ทำให้มีต้นทุนการเริ่มต้นต่ำ
  2. พิมพ์สีหลากหลายได้ในครั้งเดียว: เทคนิคนี้สามารถพิมพ์ลายที่มีสีสันหลากหลายและรายละเอียดสูงได้ในครั้งเดียว โดยไม่ต้องแยกการพิมพ์ตามสี ทำให้สามารถพิมพ์ลายที่ซับซ้อนได้ง่าย
  3. รวดเร็วและสะดวก: การพิมพ์แบบ Transfer สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว กระบวนการพิมพ์และรีดความร้อนไม่ใช้เวลานาน เหมาะสำหรับการผลิตที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น เสื้อพิมพ์ลายเฉพาะกิจ งานอีเวนต์ หรืองานโปรโมตต่าง ๆ
  4. พิมพ์ได้บนผ้าหลายชนิด: การพิมพ์ Transfer สามารถใช้ได้กับผ้าหลายประเภท เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าผสม ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกเนื้อผ้า

ข้อเสียของการพิมพ์ Transfer

  1. ความทนทานของลายพิมพ์ต่ำกว่าเทคนิคอื่น: ลายพิมพ์จากการใช้เทคนิค Transfer มีโอกาสที่จะซีดจางหรือหลุดลอกได้หลังจากการซักหลายครั้ง โดยเฉพาะหากไม่ได้ดูแลเสื้อผ้าอย่างถูกต้อง เช่น การซักในน้ำร้อนหรือใช้เครื่องอบผ้า
  2. ความหนาของลายพิมพ์: ลายพิมพ์ที่ได้จากการถ่ายโอนผ่านกระดาษ Transfer มักมีความหนากว่าการพิมพ์แบบ DTG หรือ DTF ซึ่งอาจทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกไม่สบาย โดยเฉพาะในกรณีที่พิมพ์ลายขนาดใหญ่
  3. สีอาจไม่สดใสเท่าการพิมพ์ตรง: แม้ว่าการพิมพ์ Transfer จะพิมพ์ได้หลายสี แต่สีที่ได้อาจไม่สดใสเท่ากับการพิมพ์แบบ DTG หรือ DTF เนื่องจากหมึกถูกถ่ายโอนผ่านชั้นของกระดาษทรานเฟอร์
  4. การจำกัดความยืดหยุ่น: การพิมพ์ลายด้วย Transfer มักไม่ยืดหยุ่นเท่าการพิมพ์แบบอื่น เช่น DTF หรือ DTG หากเนื้อผ้ายืดหรือหดตัวมาก ลายพิมพ์อาจแตกหรือเสียรูป

การพิมพ์เสื้อทั้ง 3 ประเภทมีจุดเด่นและข้อเสียแตกต่างกัน การเลือกใช้เทคนิคการพิมพ์ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ:

  • หากต้องการพิมพ์จำนวนมากและลายไม่ซับซ้อน การพิมพ์ซิลค์สกรีนเหมาะที่สุด
  • หากต้องการลายที่ละเอียดหรือสีสันหลากหลาย และสั่งจำนวนน้อย การพิมพ์ DTG เป็นทางเลือกที่ดี
  • สำหรับลายซับซ้อนที่ต้องการความทนทาน การพิมพ์ DTF จะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
เสื้อ1

สำหรับผู้ที่สนใจ สั่งทำเสื้อยืดสกรีน และกำลังพิจารณาเทคนิคการพิมพ์ลายทั้ง 3 รูปแบบนี้  DFT ,DTF DTG ,  Transfer ในบทความนี้ อาจช่วยให้คุณสามารถ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของคุณ แนะนำว่าต้องที่ OK GARMENT ครบทุกบริการ ได้ทั้งคุณภาพและมาตรฐาน การันตีจากบริษัทชั้นนำมากมายตามออเดอร์

สั่งผลิตเสื้อ สั่งทำเสื้อยืดสกรีน สั่งผลิตเสื้อยืด เสื้อยืดสกรีน เสื้อพิมพ์ลาย เสื้อองค์กร ที่ OK GARMENT ครบทุกบริการ ได้ทั้งคุณภาพและมาตรฐาน ประสบการณ์กว่า 30 ปี  การันตีจากบริษัทชั้นนำมากมาย  ในวงการรับผลิต เสื้อผ้าต่าง ๆ และสินค้าพรีเมี่ยม ให้กับแบรนด์ดังและบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ ใส่ใจคุณภาพ งานไว รับประกันความพึงพอใจ

ติดต่อได้ที่ ฝ่ายขาย 

Facebook : OK Garment

Tel. คุณเบลล์ 085-2203435, 02-451-7663

Line :  o_ee / Line. @okgarment

E-mail: okgarment.office@gmail.com

#OKGARMENT #ผลิตเสื้อ #รับผลิตเสื้อ #ราคาถูก #รับผลิตเสื้อตามแบบ #ผลิตเสื้อราคาถูก #ผลิตเสื้อคอกลม #ผลิตเสื้อคอวี #ผลิตเสื้อโปโล #ผลิตเสื้อแจ็คเก๊ต #ผลิตหมวก #ผลิตกระเป๋า #ผลิตผ้าขนหนู #ผลิตผ้ากันเปื้อน #ผลิตเสื้อยืด #ผลิตเสื้อเชิ้ต #โรงงานผลิต #โรงงานผลิตเสื้อ #ผลิตเสื้อฟอร์ม #ผลิตยูนิฟอร์ม

Share on social

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *